คำค้นหา : เยาวชน

คำนี้ค้นหามาแล้ว : 164 ครั้ง
ถาม-ตอบ ประเด็นร้อน จะเกิดอะไรขึ้น? หากมีการลดภาษีไวน์และสุราชุมชน กับ รศ.ดร.นพ.พลเทพ วิจิตรคุณากร
https://cas.or.th/content?id=118

ถาม-ตอบ ประเด็นร้อน จะเกิดอะไรขึ้น? หากมีการลดภาษีไวน์และสุราชุมชน

โดย รศ.ดร.นพ.พลเทพ วิจิตรคุณากร
รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา
อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
______


Q1: การลดราคาหรือภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลต่อการดื่มของเยาวชนหรือผู้ใหญ่มากกว่ากัน?
A1: การลดราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลกระทบที่แตกต่างกันระหว่างเยาวชนและผู้ใหญ่ ตามการวิจัยของต่างประเทศในปี 2007 พบว่า การลดราคามีผลต่อเยาวชนมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากความยืดหยุ่นในการบริโภคของเยาวชน (-0.39) ต่ำกว่าในกลุ่มผู้ใหญ่ (-0.56) นั่นหมายความว่า เยาวชนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการบริโภคแอลกอฮอล์มากกว่าเมื่อราคาลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพและสังคม ดังนั้น หากรัฐบาลจะพิจารณาลดราคา ก็ควรคำนึงถึงผลกระทบเหล่านี้ต่อเยาวชนในสังคมไทยด้วยเช่นกัน

Q2: ราคาแอลกอฮอล์ลดลง ทำให้ชีวิตเยาวชนไทยเสี่ยงตายเพิ่ม?
A2: การศึกษาในสหรัฐอเมริกา พบว่าราคาไม่ใช่แค่ตัวเลข เนื่องจากราคาแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้นช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตายในเยาวชน ดังนั้นในทางกลับกัน การลดราคาอาจทำให้วัยรุ่นไทยเผชิญกับความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้นได้

Q3: แอลกอฮอล์ถูกลง ทำให้ความเสี่ยงบนท้องถนนสูงขึ้น?
A3: แอลกอฮอล์ถูกลง ทำให้ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยบนท้องถนนสูงขึ้นจริง เนื่องจากงานวิจัยในอเมริกาและแคนนาดา ชี้ให้เห็นว่า “การเพิ่มราคาแอลกอฮอล์ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน” ดังนั้น “การลดราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เยาวชนไทยเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น!”

Q4: แอลกอฮอล์ราคาถูกลง จะทำให้ปัญหาสุขภาพทางเพศเพิ่มขึ้น?
A4: แอลกอฮอล์ถูกลง จะทำให้ปัญหาสุขภาพทางเพศเพิ่มขึ้นจริง เนื่องจากงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาเผยว่า “การเพิ่มราคาแอลกอฮอล์ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพเหล่านี้”ดังนั้น “การลดราคาอาจนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงและปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมในหมู่เยาวชนไทย!”

Q5: ราคาแอลกอฮอล์ลดลง ทำให้ความปลอดภัยบนท้องถนนลดลง?
A5: การลดราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้การดื่มหนัก (heavy episodic drinking) เกิดง่ายขึ้น ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการขับรถในสภาพเมา ทำให้อุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าหากราคาแอลกอฮอล์ถูกลงอาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่สูงขึ้นบนท้องถนน!

Q6: การลดราคาแอลกอฮอล์จะมีผลอย่างไรต่อพฤติกรรมการดื่มและความปลอดภัยสุขภาพของเรา?
A6: ราคาที่ถูกลงอาจส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการดื่มหนักมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงทางถนนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคตับ และปัญหาสังคม เช่น ความรุนแรงในครอบครัวและการทะเลาะวิวาท

Q7: ลดราคาแอลกอฮอล์ ส่งผลต่อเยาวชนไทยอย่างไร?
A7: การลดราคาแอลกอฮอล์อาจทำให้เยาวชนเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้ง่ายขึ้น นำไปสู่การเริ่มต้นในการดื่มในวัยที่น้อยลง และอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ ซึ่งเป็นปัญหาที่สังคมต้องให้ความสำคัญ

ทำไมจึงต้องมี “พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”
https://cas.or.th/content?id=814

ทำไมจึงต้องมี “พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”

ตอบ เพราะ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่สินค้าธรรมดา” เนื่องด้วยเป็นสารที่มีฤทธิ์อันตรายอยู่ ๓ ประการด้วยกัน คือ

๑) เป็นสารพิษ สารก่อมะเร็ง และสารที่ก่อให้เกิดความพิการทั้งทางร่างกายและสมองในเด็กที่อยู่ในครรภ์มารดา

๒) เป็นสารที่ออกฤทธิ์กดประสาททำให้ขาดสติสัมปชัญญะและความยับยั้งชั่งใจ จึงก่ออาชญากรรมและความรุนแรงต่างๆ ได้ง่าย

๓) เป็นสารเสพติดหรือยาเสพติดประเภทหนึ่งนั่นเอง ที่แม้ฤทธิ์เสพติดอาจไม่รุนแรงเท่าเฮโรอีนแต่เนื่องจากเป็นสารเสพติดที่ถูกกฎหมายจึงมีผู้ใช้จำนวนมากส่งผลให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางมากกว่าผลกระทบจากยาเสพติดทุกตัวรวมกันเป็นร้อยเป็นพันเท่า (คล้ายกับโรคอีโบลาเป็นเฮโรอีน​ กับโรคโควิด-19 เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)

จากสถิติทางสาธารณสุขของไทยเรา พบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของการสูญเสียคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยอันดับต้นๆ และมีแนวโน้มที่จะคุกคามคุณภาพชีวิตของคนไทยรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อลดภาวะคุกคามนี้

จากการศึกษาทั่วโลกพบว่าการที่จะหยุดยั้งภัยคุกคามนี้ที่มีประสิทธิภาพสูง ต้องใช้สามมาตรการดังต่อไปนี้

๑) การจำกัดการเข้าถึงทางกายภาพ (สถานที่/ วันเวลา/ บุคคล)

๒) การจำกัดการเข้าถึงทางเศรษฐศาสตร์ (ภาษี)

๓) การจำกัดการเข้าถึงทางใจ คือ การไม่ให้มีการโฆษณาสื่อสารการตลาด

ซึ่งจากรายงานวิจัยพบว่าไม่อาจจะทำเพียงมาตรการใดมาตรการหนึ่งเพียงอย่างเดียวได้ แต่ต้องดำเนินการทุกมาตรการไปพร้อมๆ กัน จึงจะได้ผล แต่อย่างไรก็ดีมาตรการห้ามการโฆษณานี้สำคัญมากเพราะถ้าไม่ดำเนินการห้ามโฆษณาหรือปล่อยให้มีการสื่อสารการตลาดเชิญชวนเชิญเชื่อได้อิสระแล้ว มาตรการอื่นๆ แม้จะทำเต็มที่แล้วก็จะไม่ได้ผลสำเร็จ

จะเห็นได้ว่ามาตรการที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ จำเป็นต้องมีการจำกัดสิทธิเสรีภาพของคนส่วนหนึ่งบ้าง เพื่อประโยชน์ของมหาชนส่วนรวม จึงมีความจำเป็นต้องตราออกมาเป็นกฎหมายนี้ขึ้น​มา

สำหรับประเด็นที่ขัดรัฐธรรมนูญนั้น ไม่เป็นการขัดรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน เพราะ

๑) กฎหมายฉบับนี้ร่างโดยคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีศาสตราจารย์ทางกฎหมายมหาชน และกฎหมายอาญาระดับแนวหน้าของประเทศร่วมร่างอยู่ด้วย

๒) ร่างกฎหมายนี้ได้ผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา

๓) ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้อย่างชัดเจนว่ามิได้ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

๔) สำหรับกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ได้จำกัดสิทธิของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ขาย และผู้สูบบุหรี่ไว้มากกว่าที่กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้จำกัดไว้อย่างมาก

จึงขอย้ำว่ากฎหมายนี้ (พรบ​.ควบคุม​เครื่อง​ดื่มแอลกอฮ​อล์)​ ไม่ได้ขัดกับรัฐธรรมนูญ​และหลักสิทธิมนุษยชน​สากลแต่อย่างใด​ ตรงกันข้าม​กลับตรงตามเจตนารมณ์หรือจิตวิญญาณ​ที่แท้จริงอย่างเคร่งครัด​ ดังนี้​

๑) ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วเห็นว่า พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และช่วยสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน โดยให้ตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งกำหนดมาตรการในการป้องกันเด็กและเยาวชนมิให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๓๒ เป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้กระทำได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ด้วยเหตุที่อิทธิพลจากการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชาชน แม้ว่าการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีผลกระทบต่อการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ประกอบอาชีพดังกล่าว ซึ่งหากฝ่าฝืน มีความผิดและมีโทษทางอาญาอันเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการประกอบอาชีพ อยู่บางส่วนก็ตาม แต่ก็เป็นการจำกัดเสรีภาพภายในขอบเขตตามที่รัฐธรรมนูญ ซึ่งให้อำนาจกระทำได้เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นการจัดระเบียบการประกอบอาชีพ และเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค และบทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติที่จำกัดเสรีภาพเพียงเท่าที่จำเป็น เนื่องจากมิได้ห้ามการโฆษณาโดยเด็ดขาด หากการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นการให้ข้อมูลข่าวสาร และความรู้เชิงสร้างสรรค์ย่อมสามารถกระทำได้ มิได้กระทบกระเทือน ต่อสาระสำคัญแห่งเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพของบุคคลแต่อย่างใด โดยมีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไปกับบุคคลที่ขายสินค้าประเภทนั้น และไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง อันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ

๒) ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนประกอบด้วยข้อความ ๓๐ ข้อ โดยขอยกเพียงสามข้อแรก ก็สนับสนุนกฎหมายนี้อย่างชัดเจน ข้อ ๑ ทุกคนมีศักดิ์ศรี สิทธิ และเสรีภาพเท่าเทียมกัน และต้องปฏิบัติต่อกันฉันพี่น้อง ซึ่งถ้าเรามองประชาชนคนไทยเป็นพี่น้องของเรา คงจะไม่โฆษณาเชิญชวนให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นสารพิษ สารก่อมะเร็ง สารเสพติด มาดื่มอย่างแน่นอนใช่ไหม? ข้อ ๒ ทุกคนมีสิทธิ และเสรีภาพ อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ชัดเจนแล้วว่ากฎหมายนี้มิได้มีการมุ่งหมายให้ใช้บังคับกับกรณีใดกรณีหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง คือมิได้มีการเลือกปฏิบัตินั่นเอง และ ข้อ ๓ ทุกคนมีสิทธิในการมีชีวิตอยู่ และมีความมั่นคง อันยิ่งชัดเจนว่าการโฆษณาส่งเสริมการขายสารทำลายสุขภาพและชีวิตแบบนี้ย่อมขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนอย่างชัดแจ้ง

พริตตี้สาวเสียชีวิตตอกย้ำภัยเหล้ามือสอง
https://cas.or.th/content?id=834

เป็นข่าวดังที่คนไทยทั่วประเทศให้ความสนใจกับการเสียชีวิตของพริตตีชื่อดังที่เสียชีวิตอย่างปริศนาในล็อบบี้ของคอนโดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ สืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า ผู้เสียชีวิต ได้รับงานเอนเตอร์เทนในปาร์ตี้หนึ่งที่จัดขึ้นในบ้านพักส่วนตัวของผู้จัด และถูกนำกลับออกจากปาร์ตี้ในสภาพหมดสติโดยพริตตี้บอยที่รับงานเอนเตอร์เทนในปาร์ตี้เดียวกัน

          เหตุการณ์ดังกล่าวมีแง่มุมที่น่าสนใจ และเป็นเหตุที่สะท้อนให้เห็นว่าภายใต้เหตุดังกล่าวนี้มีปัญหาสังคมหลายอย่างที่ซ่อนอยู่

          ปาร์ตี้เอนเตอร์เทน กิจกรรมยามว่างของวัยรุ่นไทย ?

          คำว่าปาร์ตี้ (Party) ความจริงแล้วมีรากศัพท์จากคำว่า partīre ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่าการวมตัวกัน ในวัฒนธรรมตะวันตกการจัดปาร์ตี้ คือการสังสรรค์ระหว่างผู้คนที่อยู่ในเครือข่ายสังคมเดียวกัน มักจะจัดในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ที่รองรับผู้คนได้ และมีการจัดเลี้ยงอาหาร ฟังดนตรี และ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพบปะสังสรรค์ในปาร์ตี้มีเป้าหมายเพื่อการพูดคุยแลกเปลี่ยน และ สร้างและขยายเครือข่ายสังคม วัฒนธรรมดังกล่าวได้เข้าสู่ประเทศไทยหลังการเปิดประเทศให้เป็นเมืองท่องเที่ยว คนไทยจึงเริ่มรู้จักปาร์ตี้ 

ปาร์ตี้ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ได้พัฒนาจากงานสังสรรค์ที่มีการดื่มกินแบบทั่วไป ไปเป็นกิจกรรมที่มีความน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เช่น การแลกเปลี่ยนยาเสพติด ไปจนถึงการใช้เสพยาเสพติดในปาร์ตี้  เช่นปาร์ตี้ยาอี ปาร์ตี้ยาเค หรือการใช้ปาร์ตี้เป็นพื้นที่กลางในการแสดงออกรสนิยมและความต้องการทางเพศ อย่างเช่น ปาร์ตี้สวิงกิ้ง เป็นต้น

ในเมืองใหญ่ของประเทศไทย ที่มีกลุ่มประชากรหนาแน่น มีการรวมตัวจัดปาร์ตี้ของคนหนุ่มสาวไปจนถึงวัยทำงาน ลักษณะการรวมตัวกันของผู้เข้าร่วมปาร์ตี้มักสลับกันไปจัดตามบ้านพักส่วนตัว หรือ เช่าวิลล่า ซึ่งเป็นห้องพักแบบแยกหลัง มีการรวมตัวและสลายตัวภายในหนึ่งหรือสองวัน มีการเปลี่ยนสถานที่บ่อยครั้ง การนัดพบในปาร์ตี้ยิ่งง่ายขึ้นหลังจากมีโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการกำหนดวัน เวลา และ สถานที่ สำหรับสมาชิกในกลุ่มปาร์ตี้ นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กิจกรรมผิดกฏหมายในปาร์ตี้นั้นถูกตรวจจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยาก

จากการศึกษาของโธมัส กวาดามูซ และคณะ ในปี 2558-2559 ซึ่งทำการสำรวจเยาวชนนักท่องปาร์ตี้ในเขตกรุงเทพและชลบุรี พบว่า ผู้เข้าร่วมปาร์ตี้ที่ใช้ยาเสพติด มักเลือกใช้สารเสพติดประเภทที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท เช่น Ecstasy หรือ ยาอี Ketamine หรือ ยาเค GHB  หรือยาจี ซึ่งเหตุผลสำคัญทำให้นักท่องปาร์ตี้ใช้สารเสพติดเหล่านี้ก็เพื่อ เร่งเร้าความสนุก ผ่อนคลาย มีความสุข จดจ่อกับเสียงเพลง ได้เข้าถึงเพลง แสง สี เสียงรวมถึงมีอารมณ์ทางเพศ เนื่องจากยาอี ยาเค และจีเอชบี เป็นยาที่มีราคาค่อนข้างแพง ปาร์ตี้ที่มีการนำยาประเภทดังกล่าวมาใช้จึงมักเป็นปาร์ตี้ของคนมีฐานะ คนทำงานที่มีรายได้ อาจจะเป็นคนที่ทำงานดี มีการศึกษาดี โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา หรือกลุ่มเยาวชนที่มาจากครอบครัวร่ำรวยเป็นต้น ไม่ใช่ผู้ใช้ยาเสพติดที่จะไปก่ออาชกรรมเพื่อหาเงินมาใช้ยาแบบยาชนิดอื่น ๆ

          แม้ว่าปาร์ตี้จะมีหลากหลายรูปแบบ แต่เมื่อกระแสข่าวที่พบพฤติกรรมการมั่วสุมในปาร์ตี้บ่อยครั้งในระยะหลัง จึงทำให้ภาพจดจำของผู้คนทั่วไปต่อปาร์ตี้ จึงเป็นกิจกรรมบันเทิงที่มีแนวโน้มจะมีการมั่วสุมยาเสพติด และ กิจกรรมทางเพศ การเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจึงไม่ใช่การเข้าร่วมกิจกรรมที่ปลอดภัยต่อร่างกาย ชีวิต และ ทรัพสิน ดังเช่นกิจกรรมบันเทิงในรูปแบบปกติอื่น ๆ

          พริตตี้เอนเตอร์เทน อาชีพใหม่ เงินดี ความเสี่ยงสูง

          เมื่อปาร์ตี้เป็นกิจกรรมที่หาได้ไม่ยากในหัวเมืองใหญ่ อาชีพหนึ่งที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับกิจกรรมความบันเทิงนี้คือ พนักงานเอนเตอร์เทน การคัดเลือกคนเข้ามาทำหน้าที่เอนเตอร์เทนมักเลือกที่รูปร่างหน้าตา และ บุคลิคภาพเป็นหลัก หญิงสาวหน้าตาดีมักเป็นเป้าหมายสำคัญของอาชีพชนิดใหม่นี้ ค่าตอบแทนที่มากกว่าการทำงานปกติหลายเท่า โดยค่าตอบแทนที่จะได้ขึ้นอยู่กับลิมิตของการรับงาน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่การมาเป็นเด็กชงเหล้า กินเหล้าเป็นเพื่อน ต้องอัพยาในปาร์ตี้ หรือ ไปจนถึงการมีเซ็กส์กับเจ้าของหรือผู้เข้าร่วมปาร์ตี้ ค่าตอบแทนเริ่มต้นตั้งแต่ 3,000 – 100,000 บาท แม้ว่าค่าตอบแทนจะมาก แต่ความเสี่ยงของการรับงานก็เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงเริ่มต้นตั้งแต่ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การถูกทำร้ายร่างกาย การมอมวางยา การถูกมอมเหล้าเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ การถูกแบล็คเมล์ว่ารับงานลักษณะนี้ การสูญเสียชื่อเสียง ใช้ยาเกินขนาด มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินขนาดจนเป็นพิษ ไปจนถึงร้ายแรงที่สุดคือการเสียชีวิต เป็นต้น กรณีข่าวที่เกิดขึ้นล่าสุด น่าจะเป็นสิ่งเตือนใจหญิงสาวหน้าตาดีคนอื่น ๆ ที่เข้ามารับงานลักษณะดังกล่าว แม้ง่าความเสี่ยงในระดับเสียชีวิตอาจเป็นเหตุที่เกิดได้ยาก แต่ความเสี่ยงอื่น ๆ เป็นเรื่องที่พบได้ปกติในการรับงานลักษณะนี้ จากคำบอกเล่าของพริตตี้ที่รับงานนี้ ได้เปิดใจว่าการถูกล่วงละเมิดทางเพศเป็นความเสี่ยงที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งนำมาซึ่งความเสี่ยงอื่น ๆ  เช่นการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ การได้รับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมไปจนถึงการได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย เหตุการล่วงละเมิดประเภทนี้มักไม่มีการร้องเรียนหรือฟ้องร้องดำเนินคดี เนื่องจากฝั่งผู้ถูกละเมิดมันกลัวว่าตนจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

          การเสียชีวิตของพริตตี้สาว ยืนยันอันตรายภัยเหล้ามือสอง

          การเสียชีวิตของน้องพริตตี้คนดังกล่าวเป็นสิ่งที่เน้นย้ำให้สังคมเห็นภัยของเหล้ามือสองมากขึ้น ไม่ว่าผลสุดท้ายแล้วน้อพริตตี้คนดังกล่าวจะเสียชีวิตจากสารอะไรหรือสาเหตุใดก็ตาม แต่ความจริงที่ปรากฎขึ้นคือ ก่อนเสียชีวิตลัลลาเบลไปเข้าไปทำงานในฐานะเอนเตอร์เทนเนอร์ในปาร์ตี้ และมีการดื่มเหล้าจำนวนมาก และถูกนำออกจากปาร์ตี้โดยผู้ต้องหาในสภาพที่ไม่ได้สติ สิ่งดังกล่าวคือภัยอันตรายจากแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นหลายสิบหลายร้อยเหตุการณ์ในทุกวันที่เราดำเนินชีวิตในประเทศนี้ แต่กรณีอื่น ๆ  ที่โชคดีกว่ากรณีนี้คือไม่มีใครเสียชีวิต การดื่มสุราในลักษณะที่มีการมั่วสุมในปาร์ตี้เป็นความเสี่ยงที่มากกว่าการทำกิจกรรมปกติแบบอื่น ๆ สิ่งที่ผมกล่าวนั้นไม่ได้เกินเลยความจริง เพราะเราเคยทำการสำรวจข้อมูลภัยเหล้ามือสองในประเทศไทยแล้วเมื่อปี 2560 พบว่าในกลุ่มประชากรทั่วไป มีมากถึง 6.2% ที่เคยถูกคุกคามทางเพศจากนักดื่ม ซึ่งหากเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มอาชีพพริตตี้เอนเตอร์เทนในปาร์ตี้คงพบสัดส่วนของคนที่เคยโดนคุกคามทางเพศมากกว่านี้ และนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่สังคมต้องทบทวนอย่างยิ่งว่า จะมีมาตรการใดที่ทำให้เกิดความปลอดภัยแก่ชีวิตของกลุ่มพริตตี้หญิงที่ต้องรับงานลักษณะนี้ การเลือกรับงานที่มีการดื่มแอลกอฮอล์ และต้องต้อนรับลูกค้าที่อยู่ในอาการมึนเมาแอลกอฮอล์ ไม่เคยเป็นงานที่มีความเสี่ยงเท่ากับงานปกติอื่น ๆ ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่า หากเกิดเหตุร้ายใด ๆ ก็ตามกับพริตตี้ที่รับงานดังกล่าว ความรับผิดชอบนั้นควรตกเป็นของผู้จัดจ้าง หรือ เจ้าของสถานที่ด้วย มิเช่นนั้นชีวิตของหญิงสาวหน้าตาดีก็อาจไม่มีความหมายใด ๆ ต่อผู้ว่าจ้าง ที่เห็นเป็นวัตถุทางเพศ มีเงินก็จ้างมาสนองตัณหาอยู่ร่ำไป ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น

          ผู้หญิงต้องไม่เป็นเหยื่อ ผู้หญิงต้องไม่เป็นเครื่องมือทางเพศ

          รสนิยมของเจ้าของปาร์ตี้ที่เกือบทั้งหมดเป็นบุรุษผู้มีอันจะกิน มักมีรสนิยมไปในทางเดียวกันว่าในงานปาร์ตี้ที่มีการบันเทิงอย่างสนุกสุดเหวี่ยงนั้น ต้องมีหญิงสาวหน้าตาดีมาเป็นบริกร เพื่อสร้างความสนุกสนานให้ผู้เข้าร่วมปาร์ตี้ ค่านิยมดังกล่าวเหมือนหลุดมาจากยุคโรมัน ที่มองเห็นคนเป็นเครื่องมือหนึ่งในการแสวงหาความบันเทิง เมื่อมีเงินจ่ายก็ซื้อความสนุกที่อยู่ในรูปศักดิ์ศรีของเพื่อนมนุษย์ ค่านิยมดังกล่าวกลายเป็นค่านิยมที่แพร่หลาย งานเลี้ยงที่มีบุรุษผู้มั่งมีเป็นเจ้าของงานเลี้ยง บ่อยครั้งที่มีการแสดงอำนาจบารมีกันผ่านการจ้างหญิงหน้าตาดีมาเพิ่มอารมรณ์ทางเพศให้ผู้ร่วมงาน ยิ่งสืบสวนได้ความว่าเจ้าของบ้านที่จัดปาร์ตี้นี้ ไม่ได้จัดปาร์ตี้เป็นครั้งแรก ยิ่งทำให้เห็นว่ารสนิยมเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปกติที่ถ้าใครมีเงินมีกำลังก็อยากแสดงพลังในรูปแบบนี้

          ที่เลวร้ายกว่าเรื่องรสนิยมการจ้างหญิงสาวหน้าตาดีมาเอนเตอร์เทนในปาร์ตี้ คือทัศนคติทางเพศของผู้ต้องหาชายในเรื่อง ที่เลวร้ายสุด ๆ จากการเปิดเผยในแชทที่หลุดมา บ่งบอกว่ารสนิยมทางเพศของผู้ต้องหาคือการล่าแต้มเก็บคะแนนจากการนับจำนวนผู้หญิงที่เขามีเพศสัมพันธ์ด้วย ใช้หน้าตาและรูปร่างของตัวเองในการเข้าหาผู้หญิงหน้าตาดีที่ตนหมายปอง และเคยมีพฤติกรรมมอมเหล้าหญิงสาวคนอื่นมาก่อนหน้านี้ด้วย หนำซ้ำการแสดงออกรสนิยมดังกล่าวในกลุ่มแชทและได้รับคำชื่นชมจากเพื่อนในกลุ่มเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าว่า พฤติกรรมที่เลวร้ายเช่นนี้เป็นเรื่องที่สามารถเปิดเผยอย่างภาคภูมิใจได้แล้ว นี่คือสถานการณ์ที่บ่งบอกว่าสังคมไทยกำลังประสบวิกฤติเรื่องกรอบทางศีลธรรม การคุกคามชีวิตและศักดิ์ศรีของเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะสตรีเพศนั้นได้ลุกลามจนเป็นอีกเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข เราจะเป็นสังคมที่ดีไม่ได้หากผู้หญิงในสังคมไม่ปลอดภัยเช่นนี้           เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ควรมองเป็นเพียงปรากฎการณ์ที่จะขายเป็นข่าวให้คนติดตามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อเกิดกรณีที่มีการรับรู้เป็นวงกว้างเช่นนี้ ควรใช้วิกฤตที่สร้างความหดหู่และสะเทือนใจแก่สังคมเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่ทำให้เราได้มองสังคมอย่างละเอียดลึกซึ้ง และมุ่งแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่เป็นสาเหตุของเหตุการณ์นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครตายก่อนวัยอันควรด้วยเรื่องราวเช่นนี้อีกต่อไป

ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.)

Centre for Alcohol Studies (CAS)

สาขาวิชาระบาดวิทยา ชั้น 6 อาคารบริหารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เลขที่ 15 ถนนกาญจนวนิช ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110

083-5775533

https://www.facebook.com/cas.org.th

เข้าชมแล้ว 0 ครั้ง
Copyright © 2025 CAS All rights reserved.