คำค้นหา : เหล้า

คำนี้ค้นหามาแล้ว : 1670 ครั้ง
ทำไม “เหล้า-บุหรี่-น้ำหวาน” ยังราคาถูกกว่าสุขภาพ?
https://cas.or.th/content?id=998
Tags : -

ทำไม “เหล้า-บุหรี่-น้ำหวาน” ยังราคาถูกกว่าสุขภาพ?



ล่าสุด! องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศแผนเร่งด่วน “3 by 35” ขึ้นภาษี 3 สินค้าเสี่ยงภัยสุขภาพ ภายในปี 2035 เพื่อ “ช่วยชีวิตคนทั้งโลก”

3 เป้าหมายของ WHO คือ:

  1.  เพิ่มภาษี ยาสูบ
  2.  เพิ่มภาษี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  3.  เพิ่มภาษี น้ำหวานและน้ำอัดลม


เพราะ 3 สิ่งนี้คือ “ฆาตกรเงียบ” ที่อยู่เบื้องหลังเบาหวาน มะเร็ง หัวใจ และอุบัติเหตุ

ประเทศไทยพร้อมหรือยัง?
วันนี้เรามีนักดื่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้น
เด็กดื่มน้ำหวานทุกวัน
และบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูกเกินไป

ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้อง “เดินหน้าเก็บภาษีเพื่อสุขภาพ”
อย่างจริงจัง และ “นำรายได้คืนกลับสู่ระบบสุขภาพ”

มาร่วมส่งเสียงถึงนโยบายไทย
ให้ขยับตามข้อเสนอขององค์การอนามัยโลก
เพื่ออนาคตที่ปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ และปลอดโรค

อ้างอิง: https://www.who.int/.../02-07-2025-who-launches-bold-push...

11 กรกฎาคม 2568 วันเข้าพรรษา
https://cas.or.th/content?id=980
Tags : -

11 กรกฎาคม 2568 l วันเข้าพรรษา

        “วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘” คือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นช่วงเวลาที่พระสงฆ์เริ่มจำพรรษาอยู่ประจำวัดตลอด 3 เดือนในฤดูฝน และยังเป็นช่วงเวลาที่ชาวพุทธจำนวนมาก ตั้งใจละเว้นสิ่งที่เป็นโทษต่อกายและใจ โดยเฉพาะ การงดดื่มสุรา เพราะการ “หยุดเหล้า 3 เดือน” ไม่เพียงเป็นการปฏิบัติธรรมตามหลักศาสนา แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการ ลดความเสี่ยงโรค และ ฟื้นฟูสุขภาพ ได้อย่างแท้จริง

        หยุดเหล้า 3 เดือน ลดความเสี่ยงมากกว่าที่คิด การงดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษา เพียง 3 เดือน อาจฟังดูสั้น...แต่มีผลลัพธ์ยาวไกลต่อสุขภาพของคุณ หลักฐานทางการแพทย์ชี้ว่าเพียงแค่หยุดเหล้า:

  • ตับ เริ่มซ่อมแซมตัวเอง ลดการอักเสบและไขมันพอก
  • หัวใจ ทำงานได้ดีขึ้น ลดความดันโลหิต
  • สมอง ฟื้นฟูระบบความจำและสมาธิ
  • ภูมิคุ้มกัน แข็งแรงขึ้น ลดโอกาสติดเชื้อ
  • ความเสี่ยงโรคมะเร็ง หลายชนิดลดลง

นอกจากนี้ การหยุดดื่มยังช่วยลดอุบัติเหตุ ความรุนแรง และภาระครอบครัว วันเข้าพรรษานี้ ชวนกัน พักเหล้า 3 เดือน เพื่อพิสูจน์ผลดีด้วยตัวคุณเอง

เอกสารอ้างอิง:

1) World Health Organization (WHO). Alcohol and health.

https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/alcohol

2) Mehta, G., Macdonald, S., Cronberg, A., Rosselli, M., Khera‑Butler, T., Sumpter, C. et al. (2018). Short‑term abstinence from alcohol and changes in cardiovascular risk factors, liver function tests and cancer‑related growth factors: A prospective observational study. BMJ Open, 8(5), e020673. https://doi.org/10.1136/bmjopen‑2017‑020673

 10 กรกฎาคม 2568 วันอาสาฬหบูชา
https://cas.or.th/content?id=979
Tags : -

 10 กรกฎาคม 2568 | วันอาสาฬหบูชา
"งดสุราในวันอาสาฬหบูชา: ทางเลือกเพื่อชีวิตที่ดีกว่า"


        วันอาสาฬหบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนแปด เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ปฐมเทศนา แก่ปัญจวัคคีย์ เรื่อง “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ซึ่งอธิบายหลักธรรมสำคัญ ได้แก่ ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และทางนำไปสู่ความดับทุกข์ อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชาจึงเป็นช่วงเวลาที่ชาวพุทธมักใช้ในการปฏิบัติธรรม เพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์และหันกลับมาใคร่ครวญชีวิตอย่างมีสติ (พระไพศาล วิสาโล, 2560)

        ในโอกาสนี้ ประเทศไทยได้กำหนดให้วันอาสาฬหบูชาเป็นหนึ่งในวันห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมาย ร่วมกับวันพระใหญ่อื่น ๆ เช่น วันมาฆบูชา วิสาขบูชา เข้าพรรษา และออกพรรษา (ราชกิจจานุเบกษา, 2551) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนงดเว้นจากการบริโภคสุรา และใช้เวลานี้ในการละกิเลส ฝึกจิต และเสริมสร้างสุขภาวะ

        แอลกอฮอล์หรือสุรา แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของใครหลายคน แต่แท้จริงแล้วเป็นหนึ่งในต้นเหตุสำคัญของทุกข์ทั้งทางกายและทางใจ ไม่เพียงก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคตับ โรคหัวใจ หรือปัญหาระบบประสาท (Rehm et al., 2009) แต่ยังส่งผลกระทบต่อสังคม เช่น อุบัติเหตุบนท้องถนน ความรุนแรงในครอบครัว และการละเมิดสิทธิผู้อื่น พระพุทธศาสนาถือว่าสุราเป็นหนึ่งในอบายมุข และการงดเว้นจากการดื่มสุราก็เป็นหนึ่งในศีล 5 ซึ่งพุทธศาสนิกชนควรยึดถือ

        จากข้อมูลของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา พบว่า การดื่มสุรามีความเชื่อมโยงกับปัญหาอุบัติเหตุ การใช้ความรุนแรง และการเจ็บป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่างชัดเจน (ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา, 2565) นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังระบุว่า แอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงอันดับต้น ๆ ของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ (WHO, 2018)

        วันอาสาฬหบูชาจึงอาจเป็นโอกาสสำคัญในการเริ่มต้น “ละเลิกเหล้า” และทบทวนเส้นทางชีวิตของตนเอง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งต่อร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และหากผู้คนสามารถรักษาพฤติกรรมนี้ไว้ตลอดช่วงเข้าพรรษา ก็อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ “การงดเหล้า” กลายเป็นวิถีชีวิตระยะยาว

เอกสารอ้างอิง:
1) พระไพศาล วิสาโล. (2560). พุทธธรรมในชีวิตประจำวัน. กรุงเทพฯ: สวนเงินมีมา.
2) ราชกิจจานุเบกษา. (2551). พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551.
3) Rehm J, Mathers C, Popova S, et al. (2009). Global burden of disease and injury and economic cost attributable to alcohol use and alcohol-use disorders. Lancet, 373(9682), 2223–2233.
4) ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา. (2565). รายงานสถานการณ์แอลกอฮอล์ประเทศไทย.
5) World Health Organization (WHO). (2018). Global Status Report on Alcohol and Health 2018. Geneva: WHO."

ธุรกิจแอลกอฮอล์กับ Pride Month: ฉลองความหลากหลาย หรือฉวยโอกาสทางการตลาด บนความเสี่ยงของ LGBTQ+
https://cas.or.th/content?id=938

ธุรกิจแอลกอฮอล์กับ Pride Month: ฉลองความหลากหลาย หรือฉวยโอกาสทางการตลาด บนความเสี่ยงของ LGBTQ+

ทุกเดือนมิถุนายน โลกเฉลิมฉลอง Pride Month เพื่อสนับสนุนสิทธิ ความเท่าเทียม และอัตลักษณ์ของกลุ่ม LGBTQ+

แต่ในขณะเดียวกัน ธุรกิจแอลกอฮอล์จำนวนไม่น้อยกลับเข้ามา "แทรก" ในพื้นที่เฉลิมฉลองนี้ ด้วย วาทกรรมของความเป็นพันธมิตร การสนับสนุนกิจกรรม Pride หรือแม้แต่การออกแบบขวดรุ่นพิเศษที่ใช้สีรุ้ง ทั้งหมดนี้ดูเหมือนเป็น "ความหวังดี"... แต่จริง ๆ แล้วมีอะไรซ่อนอยู่

ในสิ่งที่ดูเหมือนมิตรภาพ อาจมีความเสี่ยงซ่อนอยู่

  • งานวิจัยพบว่า กลุ่ม LGBTQ+ ดื่มแอลกอฮอล์มากและบ่อยกว่ากลุ่มทั่วไป โดยเฉพาะหญิงรักหญิงและหญิงไบเซ็กชวล ซึ่งเสี่ยงต่อผลกระทบทางสุขภาพมากกว่ากลุ่มอื่น
  • การดื่มของกลุ่ม LGBTQ+ ไม่ใช่แค่ "เพื่อเข้าสังคม" แต่ยังเป็นเครื่องมือคลายความเครียดจากการถูกกีดกัน หรือตอบสนองอัตลักษณ์ทางเพศ
  • สถานบันเทิงใน “gay scene” กลายเป็นพื้นที่ดื่มหลัก ที่มีทั้ง โปรโมชันเหล้าแรง เกมแจกเครื่องดื่ม และพนักงานขายแบบยั่วยวน เพื่อกระตุ้นยอดขาย
  • แบรนด์แอลกอฮอล์จำนวนมากใช้กลยุทธ์ทาง CSR และ “พันธมิตรแท้” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ดี แต่แท้จริงแล้วคือ การตลาดแฝง ที่หลีกเลี่ยงกฎหมายและเพิ่มยอดขาย

ทำไมเราควรตั้งคำถาม?

  • เพราะการ "รวมสีรุ้ง" กับธุรกิจที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ อาจกลายเป็นการทำลายสุขภาพของกลุ่มเปราะบางโดยไม่รู้ตัว
  • เพราะการตลาดลักษณะนี้อาจทำให้เราลืมไปว่า “การดื่มคือความเสี่ยง” ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลอง
  • เพราะสุขภาพของชุมชน LGBTQ+ ไม่ควรตกเป็นเหยื่อของผลประโยชน์ทางธุรกิจ

ขอชวนทุกคนตั้งคำถามว่า... Pride ที่เราฉลองกันนั้น เพื่อใคร? เราสนับสนุนสิทธิและสุขภาพของ LGBTQ+ จริง ๆ หรือแค่เปิดทางให้แบรนด์แสวงหากำไร?

ร่วมกันจับตาการตลาดแฝง และสร้างพื้นที่ปลอดภัย ปลอดเหล้า เพื่อ Pride ที่แท้จริง

อ้างอิง: Souto Pereira S, Lyons A. Rainbow-washing or genuine allyship? How alcohol companies target the LGBTQ+ community [Internet]. London: Institute of Alcohol Studies; 2025 Mar 10 [cited 2025 Jun 12]. Available from: https://www.ias.org.uk/.../rainbow-washing-or-genuine.../

วันงดสูบบุหรี่โลก 2025 สูบ – ดื่ม... แยกกันได้จริงไหม?
https://cas.or.th/content?id=935
Tags : -

#วันงดสูบบุหรี่โลก2025 สูบ – ดื่ม... แยกกันได้จริงไหม?

คุณอาจคิดว่า “แค่ดื่มนิดหน่อย ไม่เป็นไร”

แต่รู้ไหมว่า... คนที่ "ดื่มเหล้าเป็นประจำ" มีโอกาส สูบบุหรี่เป็นประจำ เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า!

งานวิจัยโดย รศ. ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ. ดร.นพ.พลเทพ วิจิตรคุณากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ จำนวนตัวอย่างกว่า 4 แสนคนทั่วประเทศ (ปี 2007, 2011, 2014 และ 2017) พบว่า...

คนที่ไม่ดื่มเลยสูบบุหรี่เป็นประจำแค่ 8% แต่ถ้าดื่มเป็นประจำ โอกาสสูบบุหรี่พุ่งเป็น 33% พฤติกรรม “สูบกับดื่ม” มักมาด้วยกันโดยไม่รู้ตัว

ถ้าคุณ หยุดสูบวันนี้อาจช่วยให้ เลิกดื่ม ได้ง่ายขึ้นด้วย! ลองคิดดู... ถ้าหยุดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ จะดีแค่ไหนถ้าได้ สุขภาพดีคูณสอง 

อ่านงานวิจัยฉบับเต็ม: Witvorapong N, Vichitkunakorn P. Drug Alcohol Rev. 2021;40(1):50–7. doi:10.1111/dar.13128

สถานการณ์การดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย 2564 VS 2567
https://cas.or.th/content?id=934

3 ปีผ่านไป คนไทยดื่มมากขึ้น!!

ผลจากการสำรวจของสำนักงานสถิติ ปี 2567 รายงานว่า จำนวนผู้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (นักดื่มปัจจุบัน; นักดื่มฯ ในรอบ 12 เดือนที่แล้ว) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 28.0 (16 ล้านคน) ในปี 2564 เป็นร้อยละ 35.2 (20.9 ล้านคน) ในปี 2567

1) ความชุก "นักดื่มหนัก" เพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม

  • โดยรวมเพิ่มขึ้น 7.2%
  • ผู้ชายเพิ่มขึ้น 9.3%
  • ผู้หญิงเพิ่มขึ้น 5.9%

2) คนไทยเริ่มดื่มเร็วขึ้น

  • อายุเฉลี่ยที่เริ่มดื่มลดลงจาก 20.4 ปี → 19.9 ปี
  • ผู้ชายเริ่มดื่มเร็วขึ้นเฉลี่ย 0.5 ปี
  • ผู้หญิงเริ่มดื่มเร็วขึ้นเฉลี่ย 1 ปี

3) เด็กและเยาวชนดื่มมากขึ้น

  • วัย 15–19 ปี: ความชุกเพิ่มจาก 9.0% → 9.6%
  • วัย 20–24 ปี: ความชุกเพิ่มจาก 31.6% → 37.8%

พฤติกรรมดื่มเหล้าในไทยกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่น่ากังวล โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและนักดื่มหนัก การเฝ้าระวังและการป้องกันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ

แจกเงิน 10,000 บาท แต่เปิดช่องให้ซื้อเหล้า? เสี่ยงสุขภาพเยาวชนหรือไม่?
https://cas.or.th/content?id=899

เสียงเตือนจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

การประกาศแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ประชาชนอายุ 16-20 ปี ถือเป็นมาตรการที่รัฐบาลคาดหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือเยาวชนในการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาและพัฒนาตนเอง แต่เมื่อมีข่าวว่า รัฐบาลไม่ได้กำหนด Negative List หรือข้อห้ามในการใช้เงิน แต่จะกำกับดูแลการลงทะเบียนของร้านค้าแทนด้วยการกำหนดข้อห้ามว่าร้านค้าที่ไม่ให้เข้าร่วมจะเป็นลักษณะใด เช่น ร้านทอง ร้านที่ขายเหล้าโดยเฉพาะ แต่ไม่ได้ห้ามตรวจสินค้า ยกตัวอย่าง หากนำไปใช้ในร้านโชห่วยที่มีสินค้าหลากหลาย ก็สามารถซื้อได้ทุกประเภท ทำให้เกิดข้อถกเถียงในวงกว้างว่า เงินจำนวนนี้สามารถนำไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่? ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและพฤติกรรมของเยาวชนไทยในระยะยาว

ข้อห่วงใยต่อปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ในกาสิโน ผลสืบเนื่องจากความพยายามผลักดัน พ.ร.บ. Entertainment complex ของไทย
https://cas.or.th/content?id=898

ข้อห่วงใยต่อปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ในกาสิโน ผลสืบเนื่องจากความพยายามผลักดัน พ.ร.บ. Entertainment complex ของไทย

โดย ดร.นพ.มูฮัมมัดฟาห์มี ตาเละ 
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

จากความพยายามอย่างเร่งรีบของพรรคร่วมรัฐบาลในการผลักดัน พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า พ.ร.บ.กาสิโน ในช่วงรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สังคมได้รับข้อมูลความคิดเห็นทั้งจากฝั่งสนับสนุนและคัดค้านจำนวนมากซึ่งถือเป็นข้อดีของสังคมเสรีที่ความคิดเห็นและข้อมูลสื่อสารและถ่ายทอดอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากฝั่งสนับสนุน ที่เชื่อว่าจากฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เป็นประเทศที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว หากมีการเปิดกาสิโนได้จริงจะเป็นเครื่องมือพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ทั้งเอกชน ภาคการท่องเที่ยวมีรายได้มากขึ้น ส่วนรัฐบาลก็เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ฝ่ายคัดค้านนั้นเชื่อว่าเบื้องหลังของโมเดลนี้ มีการซ่อนต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจที่ใหญ่หลวงไม่แพ้กัน

ในฐานะนักวิชาการด้านนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราพบว่าในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มีเรื่องคาบเกี่ยวกับพื้นที่ทางวิชาการที่หน่วยงานเราได้ทำข้อมูลตลอดมานั่นคือ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะยกเว้นกาสิโนจากกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ซึ่งหมายความว่าผู้เข้าไปเล่นในกาสิโนจะมีอิสระอย่างเต็มที่ในการดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องประหลาดแต่อย่างใดหากนับว่าในอบายมุขสถานจะให้อิสระมากที่สุดเพื่อเอื้อให้เกิดความบันเทิงอย่างที่สุดแก่ผู้ใช้บริการและนำมาซึ่งการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น “อบายมุขเมื่อรวมตัวกัน จะสร้างความต้องการซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น” ข้อความนี้ไม่ได้มาจากความรู้สึกนึกคิดส่วนตัวของผู้เขียนแต่มาจากงานวิจัยที่สะสมข้อมูลจากหลายแหล่ง

  • การพนัน – เหล้า

​การศึกษาของ Cronce และ Corbin ในปี 2010 (1) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มเหล้าและการพนัน โดยเฉพาะขนาดของวงเงินเดิมพันและความเร็วในการสูญเสียเงินทุน ​โดยในการศึกษาดังกล่าวได้แบ่งผู้เข้าร่วมจำนวน 130 คน เป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งถูกสุ่มให้กินเหล้าจริง และอีกกลุ่มให้ดื่มเหล้าปลอม หลังจากนั้นให้ผู้เข้าร่วม เล่นเกมสล็อตจำลองที่ถูกตั้งโปรแกรมให้มีผลลัพธ์เริ่มต้นที่แตกต่างกัน (ชนะ, เสมอ, หรือแพ้) ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงที่มีการสูญเสียเพิ่มขึ้น ผลการศึกษาพบว่าคนที่ดื่มเหล้าจริงมีแนวโน้มที่จะวางเดิมพันที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และเสียเงินทุนทั้งหมดเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่มเหล้า อันที่จริงเวลาที่เราเข้าไปในกาสิโน จะมีพนักงานบริการที่เสิร์ฟเหล้าฟรีให้เราตลอดเวลา เหมือนอย่างที่เราเคยดูในหนังฮอลีวูดส์ทั้งหลาย ถ้ามีฉากที่มีการดวลกันในกาสิโนยิ่งเป็นกาสิโนหรู ๆ จะมีเด็กเติมเหล้า แชมเปญ ให้กันไม่อั้นเลย นี่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้นักพนันหุนหันพลันแล่นและกล้าได้กล้าเสีย และนำมาซึ่งการเพิ่มวงเงินในการเล่นพนันมากยิ่งขึ้น (ซึ่งต้องมากกว่าค่าเหล้าแพง ๆ ที่เขาให้ฟรีแน่นอน)

  • กาสิโน - เหล้าฟรี - อุบัติเหตุจากเมาแล้วขับ

แน่นอนว่าคนขี้สงสัยบางคนสงสัยต่อว่า ถ้ามีกาสิโน และมีการเสิร์ฟเหล้าไม่อั้นแบบนี้ มันจะทำให้อุบัติเหตุจากคนเมาเหล้าเพิ่มขึ้นไหม ซึ่งเราพบว่ามันเพิ่มขึ้นจริง ๆ

การศึกษาของ Chad D. Cotti และ Douglas M. Walker ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Health Economics ในปี 2010 (2) ได้ศึกษาสัมพันธ์ระหว่างการเปิดกาสิโนกับจำนวนอุบัติเหตุทางถนนที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ที่มีผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกา ​เพื่อวิเคราะห์ว่าการเปิดกาสิโนในพื้นที่ต่าง ๆ มีผลกระทบต่อจำนวนอุบัติเหตุทางถนนที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์และมีผู้เสียชีวิตหรือไม่​ โดยใช้ข้อมูลจากช่วงเวลา 10 ปีที่มีการเปิดกาสิโนในสหรัฐอเมริกา​ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการมีกาสิโนในเขตพื้นที่ (county) กับจำนวนอุบัติเหตุทางถนนที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ที่มีผู้เสียชีวิต​ ผลการศึกษาพบว่ามีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างการมีกาสิโนในพื้นที่กับจำนวนอุบัติเหตุทางถนนที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ที่มีผู้เสียชีวิต

  • การพนัน - ปัญหาสังคมอื่น ๆ

ความตั้งใจจริงของการเขียนบทความนี้ไม่ได้เขียนเพื่อค้านทุกอย่างทุกประเด็นสำหรับการพัฒนา ผู้เขียนเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศย่อมเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกในสังคมและประเทศชาติ และหากข้อเสนอเรื่องกาสิโนจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมจริงแล้ว ผู้เขียนย่อมไม่คัดค้าน แต่กระนั้นก็ตามความกังวลอย่างยิ่งยวดของผู้เขียนไม่ได้อยู่ที่รายละเอียดเนื้อหาใน พ.ร.บ.กาสิโน ที่มีมาตรการควบคุมความเสียหายไว้พอสมควร เช่น การจำกัดคนไทยที่จะเข้าไปเล่นการพนันต้องมีวงเงินฝากไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท หรือต้องเสียค่าเข้ากาสิโนครั้งละ 5,000 บาท เพื่อคัดกรองเฉพาะคนไทยผู้มีรายได้สูงเท่านั้น และเน้นไปที่การดึงดูดนักพนันต่างชาติ เหมือนที่กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ได้สร้างกาสิโนคอมเพล็กซ์ขึ้นมาก่อนหน้านี้ไปแล้ว แต่กระนั้นก็ตามความน่ากังวลจริง ๆ ของผู้เขียนคือสังคมไทยที่โครงสร้างทางสังคมไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น เราจำเรื่องการเร่งผ่านกฎหมายเพื่อผ่อนปรนอบายมุขอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ พ.ร.บ.กัญชา ที่เคยถูกนำเสนอเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ในช่วงเวลาแรกนั้น ณ วันนี้เราพบว่ามันช่วยใครที่เจ็บป่วยด้วยโรคได้จริงหรือไม่ กัญชากลายเป็นสินค้าในธุรกิจการท่องเที่ยวมากกว่าสินค้าทางการแพทย์ และการซื้อกัญชาในประเทศไทยนั้นง่ายกว่าการซื้อเหล้าเบียร์เสียอีก ภาพที่อันตรายสำหรับสังคมคือ การรับกฎหมายให้รวดเร็วแล้วไปแก้ไขหรือออกกฎหมายเพิ่มเพื่อป้องกันทีหลัง ไม่มีประสิทธิภาพจริงในการป้องกันปัญหาทางสังคมจากอบายมุข 

“อบายมุข” ที่แปลว่า ทางแห่งความเสื่อม เป็นคำที่มีอายุนานหลายพันปี เพราะวิวัฒนาการทางสังคมและภูมิปัญญาที่มนุษย์ร่วมกันสร้างพิสูจน์เสมอว่า ท้ายที่สุดแล้วเมื่อสังคมรับความสุขความสนุกจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป มันจะกัดกร่อนและทำลายสังคม การพัฒนาเศรษฐกิจโดยใช้ฐานรากทางอบายมุขและความบันเทิงถือเป็นหลักการพัฒนาที่น่ากังวลใจว่าจะทำให้สังคมแย่ลง มีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ทำในยุคสมัยแห่งวิทยาศาสตร์สมัยใหม่แล้ว และพิสูจน์ว่า “อบายมุข” ที่ถูกนิยามส่งต่อมานับพันปีและมีคำเตือนให้สังคมหนีห่าง นั้นเป็นข้อความที่เป็นจริง งานวิจัยนี้เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลต่อเนื่องยาวนานและทำการวิเคราะห์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ระดับประเทศของสหรัฐ ของ Grinols และ Mustard (2006) (3) ที่ศึกษาข้อมูลจาก 167 มณฑลในสหรัฐอเมริกา ช่วงปี 1977–1996 พบว่าพื้นที่ที่เปิดกาสิโนมีอัตราอาชญากรรมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% ภายใน 5 ปีหลังเปิด โดยเฉพาะอาชญากรรมประเภทการปล้น ลักขโมย การทำร้ายร่างกาย และการขโมยรถยนต์ การศึกษานี้ใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบก่อน-หลัง (difference-in-differences analysis) และควบคุมตัวแปรเศรษฐกิจสังคมอย่างละเอียด เพื่อแยกผลกระทบของกาสิโนอย่างแท้จริง นี่คือผลการศึกษาที่สะท้อนให้เห็นว่าการพนันเรื่องเดียวเพิ่มโอกาสในการเกิดอาชญากรรมได้อีกหลายอย่าง

ถึงแม้ในปัจจุบันหลายประเทศในโลกจะอนุญาตให้มีการพนันถูกกฎหมายเกิดขึ้น อังกฤษ อเมริกา หรือ อีกหลายประเทศในโลกตะวันตก การพนันสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศเหล่านี้ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญคือ คนนับแสนนับล้านที่เป็นทาสการพนัน การพนันออนไลน์ทำงาน 24/7 ไม่หยุดไม่หย่อน สิ่งที่รัฐบาลพวกเขาทำได้ตอนนี้คือประนีประนอมกับนักเล่นพนัน เพราะคน 2/3 ของประเทศเล่นการพนันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว หากรัฐบาลไม่อนุญาตท้ายที่สุดก็จะมีการพนันผิดกฎหมายอยู่ดีจากนักเล่นและเจ้าของบ่อนเถื่อนที่พร้อมเสี่ยงด้วยกัน นี่เป็นสิ่งที่น่ากังวลว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศเล็ก ๆ อย่างไทยด้วย เราเริ่มต้นจากการอนุญาตให้เปิดกาสิโนเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว วันต่อไปไม่รู้ว่าการพนันออนไลน์ บ่อนตามตำบลอำเภอ จะถูกอนุญาตหรือไม่  หากกาสิโนมีเหตุผลให้เปิดได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่นานกิจการพนันออนไลน์ บ่อนรายเล็ก ทั้งหลายคงใช้เหตุผลเช่นเดียวกันในการเรียกร้องให้การพนันเป็นเรื่องปกติของสังคม เมื่อคนจำนวนมากถูกมอมเมาเช่นนี้ รัฐคงไปขวางทางน้ำเชี่ยวไม่ทันแล้ว

อ้างอิง (References)
1. Cronce JM, Corbin WR. Effects of Alcohol and Initial Gambling Outcomes on Within-Session Gambling Behavior. Exp Clin Psychopharmacol. 2010 Apr;18(2):145–57.
2. Cotti CD, Walker DM. The impact of casinos on fatal alcohol-related traffic accidents in the United States. J Health Econ. 2010 Dec 1;29(6):788–96.
3. Mustard D, Grinols E. Casinos, Crime, and Community Costs. Rev Econ Stat. 2006 Feb 1;88:28–45.

มติการประชุม คณะทำงานด้านวิชาการในการสนับสนุนการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
https://cas.or.th/content?id=889

มติการประชุม คณะทำงานด้านวิชาการในการสนับสนุนการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
ภายใต้อนุกรรมการวิชาการ คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ความเสี่ยงในการแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือประกาศที่ใช้บังคับในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

1) การยกเลิกกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยการให้โรงแรมที่จดทะเบียนสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือการขยายเวลาขายให้สถานประกอบการคล้ายสถานบริการขายได้ถึงตีสี่:

        ปัจจุบันมีโรงแรมที่จดทะเบียนประมาณ 15,000 แห่ง แขกในโรงแรมสามารถดื่มจากสินค้าที่วางขายในห้องอยู่แล้ว หากครอบคลุมไปถึงร้านค้า ร้านอาหารในโรงแรม มาตรการนี้จะทำให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมาก แขกและลูกค้าภายนอกของโรงแรมสามารถเข้ามาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะเกิดการดื่มแล้วขับทำให้บาดเจ็บและการตายบนท้องถนนเพิ่มมากขึ้นในหลายจังหวัดอย่างแน่นอน ประมาณ 15-20% เป็นอย่างน้อย ดังปรากฏข้อเท็จจริงว่าในการขยายเวลาให้สถานบริการในพื้นที่ จังหวัดชลบุรีและภูเก็ตที่รวมประมาณ 1,000 สถานบริการ โดยขยายเวลาบริการได้ถึงตีสี่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุในช่วงตีสองถึงเจ็ดโมงเช้าเพิ่มขึ้นทั้งสองจังหวัด เกิดการบาดเจ็บเพิ่ม 900 ราย (เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 14%) และมีการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทั้งสองจังหวัดรวมกัน 37 ราย (เพิ่มขึ้น 25%) โดยแม้แต่พื้นที่นำร่องที่ขยายเวลาฯ ก็ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นตามมาตรการที่กำหนด ยิ่งไปกว่านั้นในพื้นที่เขตโซนนิ่งมีปัญหาอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ป่าตอง มีเหตุทุกวัน ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว ชาวบ้านในพื้นที่ใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น โจรขโมยเยอะขึ้น และแน่นอนว่าเป็นการเพิ่มภาระงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่กู้ภัย และที่พัทยา พบนักท่องเที่ยวโดนคนเมาทำร้าย อย่างไรก็ดีหากโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากและใช้บริการอาหารเที่ยงของโรงแรมมีความประสงค์ขอขยายเวลาการขายในช่วง 14.00-17.00 น. อาจพิจารณาเป็นข้อยกเว้นภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดขึ้น และตรวจสอบรับรองโดยคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ พ.ร.บ. ฉบับแก้ไขที่กำลังพิจารณาในสภาขณะนี้

2) การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา:

        การอนุญาตให้ขายในวันสำคัญทางศาสนาเพียง 5 วัน ประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะที่นับถือศาสนาพุทธ เนื่องจากมีมิติทางสังคมวัฒนธรรม และเมื่อพิจารณาสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า ประชาชนยังสามารถหาซื้อได้ในร้านขายของชำทั่วไป โดยสามารถซื้อได้ตลอด แม้ว่าเป็นช่วงเวลาห้ามขายก็ตาม สะท้อนให้เห็นถึงการบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมา ไม่มีการตรวจสอบหรือสุ่มตรวจร้านค้า คณะทำงานด้านวิชาการฯ เสนอให้คงการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนาไว้ 5 วันคงเดิม และไม่เห็นด้วยที่จะยกเว้นให้ขายได้ในสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ เพราะจะไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งจำนวนสถานประกอบการคล้ายสถานบริการมีมากกว่า 1 แสนราย ส่วนสถานบริการตามกฎหมายสถานบริการ 2,000 ราย ควรจะห้ามเช่นเดิม แต่อาจมีข้อยกเว้นให้กับบางพื้นที่เท่านั้น เช่น ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ โรงแรม โดยคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดต้องรับรองตรวจสอบให้มีมาตรการเฝ้าระวัง ติดตาม และป้องกันผลกระทบอย่างจริงจัง

3) การขายออนไลน์:

        ไม่ควรอนุมัติให้มีการยกเลิกกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือประกาศที่ใช้บังคับปัจจุบันเพื่อให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อผู้บริโภคโดยตรงได้ และควรชะลอการตัดสินใจเพื่อสั่งการให้มีคณะศึกษาผลกระทบในเรื่องนี้อย่างละเอียด เนื่องจากปัจจุบันมีร้านค้าที่พร้อมจะขายออนไลน์ เช่น ร้านสะดวกซื้อแบบธุรกิจขนาดใหญ่เกือบสองหมื่นร้าน ร้านอาหาร ผับ บาร์ อีกประมาณสองแสนร้าน หรืออาจเกือบครึ่งหนึ่งจากใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 570,000 ใบ ประกอบกับมีแพลตฟอร์มการสั่งซื้อที่สะดวกมากมายหลากหลายที่ไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ซื้อ จะทำให้เยาวชนเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่ายโดยปราศจากการตรวจสอบอายุตามที่กฎหมายกำหนด ไม่สามารถตรวจสอบตัวตนของผู้ขายและตรวจสอบใบอนุญาตขาย ซึ่งมีความย้อนแย้งกับมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ดำเนินการแก้ไขโดยที่ต้องคำนึงถึงการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่เหมาะสมของเยาวชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อผู้บริโภคโดยตรงนั้นก็ไม่ได้เป็นวิธีการส่งเสริมการท่องเที่ยวแต่อย่างใด และในทางกลับกันอาจกลายเป็นช่องทางที่มีการสั่งสินค้าแอลกอฮอล์จากต่างประเทศได้ ประกอบกับผลจากการบังคับใช้การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่านมา พบว่า มีการสื่อสารโพสต์คอนเทนต์โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และได้ลองดำเนินการแจ้งทางแพลตฟอร์มโซเชียล ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีต่อได้

4) ประเด็นอื่น ๆ:

  • การดำเนินงานในแต่ละประเด็น ควรต้องสร้างตัวเลือกในการดำเนินงาน อาจประกอบด้วยแนวทางหลักและแนวทางสำรอง เช่น อาจจะลองดำเนินการในบางพื้นที่ ซึ่งรัฐต้องมีการควบคุม ติดตาม และรายงานผลของนโยบายให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อลดผลกระทบ โดยมาตรการความพร้อมต้องเกิดก่อนออกมาตรการ
  • ควรมีการศึกษาวิจัยมิติทางสังคมที่มาช่วยยืนยันได้ว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทย มาเพราะอยากดื่มเหล้า มาเล่นคาสิโน และมีงานวิจัยต่างประเทศที่ชี้ว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นไม่ได้ส่งเสริมรายได้ทางเศรษฐานะของประชาชนได้จริง
  • การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ย่อมเพิ่มผลกระทบแน่นอน ส่วนใหญ่จะพบข้อมูลผลกระทบที่เป็นภัยทางถนนเป็นส่วนใหญ่และเห็นแนวโน้มชัดเจน ซึ่งอาจต้องพิจารณาถึงผลกระทบด้านอื่นร่วมด้วย เช่น เหตุทะเลาะวิวาทจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มจนเสียชีวิต การติดสุรา ข้อมูลความรุนแรง เป็นต้น ซึ่งยังไม่ค่อยมีข้อมูลด้านนี้ จึงไม่สามารถนำมาใช้ในการประกอบการพิจารณาได้อย่างรอบด้าน

5) บทสรุป:

        เนื่องจากการยกเลิกมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการให้ขายออนไลน์ ขยายเวลาขายในโรงแรม 24 ชั่วโมง หรือการขยายเวลาให้สถานบริการและสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการจะมีความเสี่ยงทำให้เกิดการเสียชีวิตประมาณ 600-800 ราย จากการดื่มขับ การเร่งรัดแก้ไขให้เสร็จเร็วเพื่อทันเทศกาลสงกรานต์สำหรับการท่องเที่ยวจึงอาจเป็นการละเลยและประมาทในการปกป้องความปลอดภัยของคนไทยตามหน้าที่ของรัฐที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ คณะทำงานด้านวิชาการฯ เสนอให้มีการศึกษาเพื่อพิจารณาความพร้อมต่าง ๆ อย่างรอบด้าน ไม่ควรรีบดำเนินการเพราะไม่ได้เป็นภาวะฉุกเฉิน

ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.)

Centre for Alcohol Studies (CAS)

สาขาวิชาเวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ป้องกัน อาคารศรีเวชวัฒน์ ชั้น 11 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เลขที่ 15 ถนนกาญจนวนิช ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110

083-5775533

https://www.facebook.com/cas.org.th

เข้าชมแล้ว 0 ครั้ง
Copyright © 2025 CAS All rights reserved.